กล้องวงจรปิดอินฟราเรด มองเห็นในที่มืด เพิ่มความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง

เมื่อพูดถึงความปลอดภัยในบ้านและธุรกิจ การเฝ้าระวังไม่ควรหยุดแค่ตอนกลางวัน เพราะเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมักเกิดขึ้นในช่วงเวลากลางคืนที่แสงสว่างน้อยหรือไม่มีเลย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ กล้องวงจรปิดมีระบบอินฟราเรด (Infrared หรือ IR) ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เพราะสามารถมองเห็นในที่มืดได้อย่างชัดเจนและแม่นยำ

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ กล้องวงจรปิดระบบอินฟราเรด ข้อดี วิธีเลือก และทำไมกล้องประเภทนี้จึงจำเป็นต่อการป้องกันเหตุร้ายในเวลากลางคืน

กล้องวงจรปิดอินฟราเรด (IR) คืออะไร?

กล้องวงจรปิดอินฟราเรด (Infrared CCTV) คือกล้องที่สามารถจับภาพในสภาวะแสงน้อยหรือในที่มืดสนิทได้ โดยใช้แสงอินฟราเรดในการส่องสว่างบริเวณที่จับภาพ ซึ่งเป็นแสงที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่สามารถมองเห็นได้ผ่านกล้อง ทำให้กล้องสามารถบันทึกภาพได้แม้ในความมืด 100%

กล้องประเภทนี้มักมีหลอด IR LED ติดตั้งอยู่รอบเลนส์ เพื่อปล่อยแสงอินฟราเรดออกมาในเวลากลางคืนโดยอัตโนมัติ

ข้อดีของกล้องวงจรปิดระบบอินฟราเรด

มองเห็นในที่มืดได้ชัดเจน

แม้ไม่มีแสงสว่างเลย กล้องที่มีระบบอินฟราเรดสามารถบันทึกภาพในลักษณะขาวดำได้อย่างชัดเจน เหมาะกับพื้นที่นอกอาคารหรือภายในที่ปิดไฟ

ทำงานอัตโนมัติเมื่อแสงน้อย

กล้อง IR ส่วนใหญ่มีเซ็นเซอร์ตรวจจับแสง เมื่อแสงลดลงในระดับหนึ่ง กล้องจะเปิดโหมด Night Vision โดยอัตโนมัติ

ครอบคลุมพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง

สามารถใช้งานได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ทำให้มั่นใจได้ว่าคุณไม่พลาดเหตุการณ์สำคัญแม้ในช่วงเวลาที่มืดที่สุด

ติดตั้งได้ทั้งภายนอกและภายในอาคาร

กล้อง IR เหมาะกับทั้งพื้นที่ภายในบ้าน เช่น ทางเดิน ห้องเก็บของ และพื้นที่ภายนอก เช่น ลานจอดรถ ประตูรั้ว หรือสนามหลังบ้าน

ราคาคุ้มค่า

ในปัจจุบันกล้อง IR มีให้เลือกหลากหลายราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันปลาย ๆ โดยไม่ต้องจ่ายแพงก็ได้ฟีเจอร์ครบครัน

ฟีเจอร์ที่ควรมีกับกล้อง IR

1. ระยะมองเห็นตอนกลางคืน (Night Vision Distance)
   เลือกกล้องที่มีระยะ IR ตั้งแต่ 10 เมตรขึ้นไป สำหรับบ้าน และ 30–50 เมตรขึ้นไป สำหรับพื้นที่เปิดโล่งหรือธุรกิจ
2. จำนวนหลอด IR LED
   ยิ่งจำนวนหลอด LED มาก ก็ยิ่งให้แสงอินฟราเรดมาก ภาพจะสว่างและคมชัดในที่มืดมากยิ่งขึ้น
3. ฟังก์ชัน Smart IR หรือ IR-Cut Filter
   ช่วยปรับความสว่างของภาพในที่มืดให้เหมาะสม ไม่ให้แสง IR จ้าเกินไปหรือทำให้ใบหน้าในภาพขาวจนดูไม่ออก
4. มาตรฐานกันน้ำ-กันฝุ่น (IP66/IP67)
   สำหรับติดตั้งภายนอก ควรเลือกกล้องที่มีมาตรฐานป้องกันฝุ่นและน้ำ เพื่อให้กล้องทำงานได้ในทุกสภาพอากาศ
5. รองรับการดูผ่านมือถือ
   กล้อง IR รุ่นใหม่ควรสามารถดูภาพแบบเรียลไทม์ผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อให้คุณตรวจสอบสถานการณ์ได้ทันทีไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน

ตัวอย่างกล้องวงจรปิด IR ที่น่าสนใจ

Hikvision DS-2CE16D0T-IRPF

• ความละเอียด 2MP
• Night Vision ระยะ 20 เมตร
• กันน้ำ IP66
• ราคาประมาณ: 900 – 1,200 บาท

IMOU Bullet 2C

• Full HD 1080p
• มี Smart IR + Night Vision ระยะ 30 เมตร
• รองรับ Wi-Fi / ดูผ่านมือถือ
• ราคาประมาณ: 1,400 – 1,800 บาท

EZVIZ C3N

• ความละเอียด 2MP
• อินฟราเรด + ระบบภาพสีตอนกลางคืน (Color Night Vision)
• รองรับดูผ่านแอป EZVIZ
• ราคาประมาณ: 2,000 – 2,500 บาท

เหมาะกับใคร?

• เจ้าของบ้านที่ต้องการเฝ้าระวังเวลากลางคืน
• ร้านค้าหรือธุรกิจที่มีสินค้ามูลค่าสูง
• พื้นที่ที่ไม่มีไฟส่องสว่าง เช่น ลานจอดรถ หรือโกดัง
• ผู้ใช้งานที่ต้องการภาพตอนกลางคืนที่คมชัดและดูย้อนหลังได้

สรุป

กล้องวงจรปิดมีระบบอินฟราเรด คือทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการเฝ้าระวังในเวลากลางคืน ด้วยเทคโนโลยีที่สามารถมองเห็นในที่มืดได้ชัดเจนและระบบการทำงานแบบอัตโนมัติ กล้อง IR ไม่เพียงแค่เพิ่มความปลอดภัย แต่ยังช่วยให้คุณอุ่นใจได้ตลอด 24 ชั่วโมง

หากคุณกำลังมองหากล้องวงจรปิดที่ให้ประสิทธิภาพในทุกสภาพแสง กล้องอินฟราเรดคือคำตอบที่ใช่ในราคาที่คุณเอื้อมถึง

ติดต่อเรา

• Facebook : ช่างรังรอง CCTV&Network
• LINE : Rungrong
• เบอร์โทร : 080-365-9997
• เว็บไซต์ : rungrong.com